หน้าเว็บ

ป้ายกำกับ

วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

500 days of summer






ทอม (โจเซฟ กอร์ดอน ลูอิส) มีอาชีพเป็นนักแต่งกลอนบนการ์ดอวยพร เขาเป็นชายหนุ่มที่มีความคิดโรแมนติคแบบไร้ทางเยียวยา แต่แล้วก็เหมือนมีใครมาดักทุบหัว เมื่อ ซัมเมอร์ (ซูอี้ เดชาเนล) แฟนสาวที่เขาคบมาบอกเลิก ทอม ต้องนึกทบทวนกลับไปกลับมาหลายรอบว่า ในระยะเวลา 500 วันที่พวก เขา "อยู่ด้วยกัน” มีสิ่งใดที่มันผิดพลาดไป ซึ่งการมองกลับไปในอดีตของตัวเองนั้น ก็ทำให้เขาค้นพบสิ่งที่ปรารถนาที่แท้จริงของตัวเอง











โอเค จริงอยู่ที่ไอเดียหนังออกจะดูกิ๊บเก๋ แต่โดยเนื้อแท้แล้วมันก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั่วไปในชีวิตของมนุษย์ ถ้าพูดตามตรง นี้คือเรื่องราวของความรักที่ดูธรรมดาเสียเหลือเกิน มันเหมือนกับหนังรอม-คอมจืดๆทั่วไป ที่อาศัยชื่อของสองดารานำที่ฮ๊อตฮิตสุดๆในขณะนี้มาเป็นจุดขาย แต่กระนั้นเลย เสียงตอบรับจากคนที่มีโอกาสรับชมเรื่องนี้ในเทศกาลหนังซันแด้นส์ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มันมีอะไรบางอย่างที่มากกว่านั้น และมีใครบางคนถึงกับบอกว่า “นี้คือหนังของ Charlie Kaufman ในเวอร์ชั่นที่เขาพยายามมองโลกในแง่ดี



คนที่ไปดูอีกคนหนึ่งตั้งข้อ สังเกตุให้กับหนังเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า "ถ้ามีคนถามว่า ทำไมเราถึงต้องไปดูหนังโรแมนติค-คอมเมดี้พล็อตซ้ำๆเดิมๆเรื่องแล้วเรื่อง เล่า ผมก็จะตอบไปว่า 500 Days of Summer คือหนังโรแมนติคที่สร้างขึ้นโดยประชาชนทุกคน มันคือการตีแผ่ถึงเรื่องของความรักในยุคสมัยของพวกเรา ไมว่าจะเป็นมุมมองในเรื่องความรักที่ดูไม่มีเหตุผลและอารมณ์รุนแรง ความรู้สึกอยากใกล้ชิดของผู้หญิงที่อาจจะไม่ได้มีความหมายอย่างที่ผู้ชายคิด หรือการที่ผู้ชายวิเคราะห์ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์มากเกิน ไป

เขาเล่าต่ออีกว่า “ซึ่งทั้งหมดก็ถูกทำออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือ เพราะมันเปรียบเสมือนผลผลิตที่กลั่นออกมาจากความคิดของหนุ่มสาวในยุค ปัจจุบัน ภาพยนตร์เรื่องนี้จะสร้างผลกระทบทางจิตใจให้กับคนดู เช่นเดียวกับที่มันอาจไม่สร้างผลกระทบใดๆให้กับอีกหลายคน มันไม่เลือกที่จะเห็นใจแก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้ง โทมัส และ ซัมเมอร์ ไม่มีใครถูก พอๆกับที่ไม่มีใครเป็นคนผิด เพราะความสัมพันธ์มันไม่ใช่เรื่องชัดเจนขนาดนั้น 500 Days of Summer คือภาพยนตร์ที่อุทิศให้แก่ช่วงเวลาที่สับสนของคนในช่วงอายุหนึ่ง"

ข้าง ล่างนี้คือทีเซอร์หนัง ที่น่าจะช่วยบ่งบอกความเป็นตัวตนของมันได้อย่างดี (ความจริงยังมีคลิ๊ปหนังอีกสองอัน แต่ผู้เขียนหาวิธี Embed ไม่ได้แฮ่ะ) และถ้าตามกำหนดแล้ว หนังจะลงโรงที่อเมริกาในเดือนมิถุนาคมปีนี้ สำหรับบ้านเรา ก็หวังว่าชื่อของ Zooey และ JGL จะเป็นแรงส่งให้พวกเราได้มีโอกาสรับชมในโรงภาพยนตร์น่ะ


นี่เป็นหนังที่เกีียวกับความรัก แต่ไม่ใช่หนังรัก ซึ่งมีการหักมุมตอนท้ายรัก ใครที่ยังไม่ได้ดูก็ติดตามชมกันได้ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น