หน้าเว็บ

ป้ายกำกับ

วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ภาพยนตร์เชิดชูนางแบบดำ"เกิดใหม่"ในรูปแบบภาพถ่ายแฟชั่น





























กระแส นางแบบดำยังแรงดีไม่มีตกนะครับ หลังจาก Vogue อิตาลี นำนางแบบดำมาขึ้นปกและถ่ายแบบทั้งเล่มเมื่อเดือนกรกฏาคม 2008 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกเลยทีเดียวที่นางแบบดำได้รับเกียรติมากขนาดนี้
และ ล่าสุดเดือนตุลาคม 2008 นี้ ก็เป็นคิวของ V Magazine สหรัฐฯที่จะขอให้เกียรตินางแบบผิวดำบ้าง โดย V Magazine นำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ ด้วยการนำภาพยนตร์ชื่อดัง(แต่ถูกวิจารณ์ยับ)ตั้งแต่ยุค 70 เรื่อง Mahogany มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ภาพถ่ายแฟชั่น
ภาพยนตร์เรื่อง Mahogany ออกฉายเมื่อปี 1976(2519)นำแสดงโดย Diana Ross นักร้องนักแสดงผิวดำชื่อก้อง









Diana Ross ในภาพยนตร์ Mahogany













ภาพยนตร์ Mahogany เป็นเรื่องราวของ Tracy สาวผิวดำที่ใฝ่ฝันอยากเป็นดีไซเนอร์ชื่อก้องโลก แต่โชคชะตาพลิกผัน เพราะ Tracy กลับไปเข้าตาแมวมองนางแบบ ชักชวนเธอไปเป็นนางแบบที่อิตาลี และเปลี่ยนชื่อ Tracy เป็น Mahogany
และในที่สุด Mahogany ก็กลายเป็น"ซุปเปอร์โมเดล"โด่งดังไปทั่วโลก
Diana Ross ขณะสวมบทบาท Mahogany
และ นางแบบดำมืออาชีพที่จะมาสวมบทบาทเป็น Mahogany ยุค 2008 ให้กับ V Magazine ก็คือ Tyra Banks นางแบบ นักแสดงดาวค้างฟ้าชาวอเมริกัน ที่ตอนนี้ ผันตัวมาเป็นเจ้าของและพิธีกรรายการทีวี มีรายการที่โด่งดังไปทั่วโลกทั้ง America Next Top Model และ The Tyra Banks Show
นางแบบดำอีกคนที่จะมา สวมบทบาทเป็น Mahogany ยุค 2008 ก็คือ Sessilee Lopez นางแบบดาวรุ่งพุ่งแรงชาวอเมริกันวัย 19 ที่เธอไต่เต้าในวงการนางแบบมาตั้ง 4 ปี แต่เพิ่งจะมาเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงเอาเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมานี่เอง เพราะเธอถูกเลือกให้ขึ้นปก Vogue อิตาลี เมื่อเดือนกรกฎาคม 2008
นิตยสาร V Magazine สหรัฐฯ กันยายน/ตุลาคม 2008
นางแบบ Tyra Banks,Sessilee Lopez
ช่างภาพ Sebastian Faena

นางแบบหน้าตาเศร้าๆง่วงๆ Karmen pedaru












































































เธอ เป็นอีกหนึ่งนางแบบมาใหม่มาแรงจากเอสโทเนีย ที่ผ่านมาเอสโทเนียมีนางแบบระดับโลกมาแล้วคือ ป้าคาร์เมนและพี่ทียู(เราเคยเขียนถึงTiiu แล้วที่นี่และน้องเล็กคนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่มาจากเอสโทเนีย เราก็ต้องดูกันต่อไปว่าสาวน้อยคนนี้จะฮอตได้เหมือนรุ่นพี่ๆหรือไม่ เธอเกิดเมื่อปี 1990 จัดเป็นนางแบบที่ตาโตแต่อาจเพราะหนังตาเธอตกด้วย ตาก็เลยดูปรือๆ ง่วงๆเศร้าๆ
ถ้าไม่กรีดอายไลเนอร์แล้วจิกตา เธอก็จะดูเศร้าๆง่วงๆไปเลย ฟันเธอแอบห่างนิดๆด้วยนะก็เลยมีคนบอกว่าเธอหน้าคล้ายวาเนสซ่า พาราดีส์ แฟนของจอห์นนี่ เดปป์ด้วย ปี2005 เธอถูกค้นพบในขณะที่อยู่ที่โรงหนัง ปี 2006 มีงานถ่ายแบบให้ทีนโว้ต และได้เดินบแบบเป็นครั้งแรก ปลายปี2007 กลับมาเดินแบบอีกครั้งหลังจากซีซั่นที่แล้วเธองดรับงานไป และก็ได้ถ่ายแบบอีกสองสามชิ้น
ต้น ปี2008 เป็นครั้งแรกที่เธอได้ไปเดินแบบที่นิวยอร์คให้กับหลายแบรนด์ นอกจากนี้ยังได้เดินเปิดโชว์อีฟแซงโลรองที่ปารีสอีกด้วย เว็บไซต์จัดอันดับนางแบบ 2 เว็บดังจึงจัดให้เธอเป็นหน้าใหม่ที่มาแรง หลังจากนั้นเธอก็มีงานถ่ายแบบอีกเพียบ พอถึงช่วงเดินโอกูตูร์นั้นนอกจากจะได้เดินเปิดโชว์ให้อันวาเลรีอัชแล้ว เธอก็ได้เดินให้ชาแนล จีวองชี่ วาเลนติโนด้วย ช่วงแฟชั่นวีคที่ผ่านมานั้น
นอก จากเธอจะเดินให้กับแบรนด์ต่างๆมากมายซะทั่วไปหมดแล้ว เธอก็ยังมีโอกาสได้เดินเปิดโชว์ให้กับบางแบรนด์ที่นิวยอร์คและเดินปิดโชว์ ให้กับบางแบรนด์ที่ลอนดอนด้วย







ดีใจกับ"ลักษมี"นางแบบอินเดียหนึ่งเดียวใน"โว้ค ปารีส"





















นาง แบบอินเดีย Lakshmi Menon เธอโด่งดังในระดับโลกจนไปไกลเกินฝันแล้วล่ะครับ เพราะล่าสุด เดือนตุลาคมนี้ Lakshmi ถูกเลือกให้ถ่ายแบบใน Vogue ปารีส ตุลาคม 2008
ถึงแม้ว่า Lakshmi จะไม่ได้ขึ้นปก แต่การที่นางแบบอินเดียได้ไปปรากฏโฉมถ่ายแบบใน Vogue ปารีส ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สุดยอดมากๆแล้ว เพราะ Vogue ปารีส เป็นหนึ่งในนิตยสารแฟชั่นชั้นนำของโลก
ผมไม่แน่ใจว่า Lakshmi จะเป็นนางแบบอินเดียคนแรกรึเปล่าที่ได้ถ่ายแบบลงใน Vogue ปารีส
นิตยสาร Vogue ปารีส ตุลาคม 2008
นางแบบ Lakshmi Menon อินเดีย
ช่างภาพ Mario Testino

สนามธันเดอร์โดม เมืองทองธานี

สนามแข่งขัน : สนามธันเดอร์โดม เมืองทองธานี

เกียรติประวัติของทีม :

ชื่อที่ใช้ขึ้นทะเบียนไว้กับสมาคมฟุตบอลคือ ร.ร.หนองจอกพิทยานุสรณ์ ซึ่งก่อตั้งหลังร.ร.ศาสนวิทยา ( บีอีซีเทโรศาสน ) เพียง 3 ปี เวลาผ่านไปทีมถูกเปลี่ยนชื่อไปเป็นทีม "ไข่มุกดำหนองจอก" โดยมี วีระ มุสิกพงษ์ เข้าไปบริหารทีมจากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นชื่อ เมืองทองหนองจอกยูไนเต็ด ในการเล่นลีกดิวิชั่น 2 ซึ่งก่อนหน้านี้ทีมค้างเติ่งอยู่ในถ้วย ข. มานาน
เมืองทองฯคว้าแชมป์ลีกด. 2 ตีตั๋วขึ้นมาเล่นไทยลีกฤดูกาลที่แล้วได้และก็ประกาศักดาคว้าแชมป์ได้ 2 ดิวิชั่นติดต่อกันด้วยการเป็นทีมแชมป์ลีกดิวิชั่น 1 ประจำปี พ.ศ. 2551 คว้าสิทธิขึ้นมาเล่นในศึกไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2009 หรือไทยลีกครั้งที่ 13 ได้สำเร็จและถูกจับตามองว่าเป็นทีมที่น่าจะมีโอกาสลุ้นแชมป์ได้มีการเสริม ทัพด้วยการดึงนักเตะเกรดเอฝีเท้าดีหลายๆรายไปร่วมทัพด้วย




งบประมาณ
งบประมาณ :
ใน ส่วนของงบประมาณการทำทีม ซีซั่นนี้ ''กิเลนผยอง'' ทุ่มงบบริหารจัดการทีมอู้ฟู่เหนือใครด้วยเม็ดเงินเป็นจำนวน 100 ล้านบาท ซึ่งได้จาก ''ยามาฮ่า'' ที่เข้ามาหนุน 3 ปี พร้อมกันนั้น ยังเปลี่ยนชื่อสนามแข่งขันจากธันเดอร์โดมมาเป็น ''ยามาฮ่า สเตเดี้ยม'' พร้อมกันนั้น ยังปรับปรุงในส่วนของสนามที่เข้าเกณฑ์มาตรฐานเอเอฟซีแล้วด้วยการต่อเติม อัฒจันทร์แบบมีที่นั่งจุได้ 20,000 คน การติดไฟระดับความสว่าง 1,200 ลักช์ และปรับปรุงรอบสนามบริการด้านสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าช็อปขายสินค้า ร้านอาหาร อีกด้วย


เป้าหมาย
เป้าหมายของทีม : ผจก.ทีม โรเบิร์ต โปรคูเรอร์ ยืนยันว่า ปีนี้เราต้องทำงานกันหนัก เนื่องจากเราจะต้องเล่นทั้ง เอเอฟซี คัพ และไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งการคว้าแชมป์มาได้นับว่ายากแล้ว แต่การป้องกันแชมป์ย่อมยากกว่า เหนือสิ่งอื่นใดเราต้องทำงานกันหนักกันต่อไป แต่ว่าเราได้เสริมนักเตะที่ดีมาเล่น และได้โค้ชที่มีประสบการณ์มาจากยุโรป มั่นใจว่า การทำงานของเรา และการสนับสนุนที่ดีจากแฟนบอลจะพาทีมเมืองทองก้าวไปสู่ความสำเร็จทั้งลีกภาย ในประเทศ และถ้วยระดับทวีปเอเชีย อย่าง ''เอเอฟซี คัพ''


ขุมกำลัง
ขุมกำลังของทีม :

อย่างที่เกริ่นนำมาว่า ไทยพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ ''กิเลนผยอง'' เมืองทองฯ ยูไนเต็ด มีการปรับทัพผ่าตัดเปลี่ยนแปลงตัวนักเตะกัน หลายตำแหน่ง นักเตะที่ย้ายออกไป ตัวต่างชาติสองรายได้แก่ โคเน่ อดราม่า ถูกทีทีเอ็ม-พิจิตร ยืมตัว, บรูเคลมองต์ ไปเล่นในลีกประเทศเมียนมาร์ ส่วนนักเตะไทย อย่าง อุกฤกษ์ วงษ์มีมา, สลาฮูดิน อาแว ไปเล่นให้กับบุรีรัมย์-พีอีเอ, หัฐพร สุวรรณ ไปอยู่กับ บีอีซี เทโรฯ, อนุสรณ์ ศรีชาหลวง ทีทีเอ็ม-พิจิตร ยืมตัว , ขณะที่ ธนพัต ณ ท่าเรือ ไปอินทรีเพื่อนตำรวจ และ คัมภีร์ ปิ่นฑะกูล ย้ายกลับรังเดิม สุพรรณบุรี


ส่วนนักเตะที่เข้ามาใหม่เรียกได้ว่าเป็นตัวท็อปเลยทีเดียว ไล่ตั้งแต่ ธีระวัฒน์ ปิ่นประดับ นายทวารจากทีโอที แคท เอฟซี, ภานุพงศ์ วงศ์ษา กองหลังจาก บุรีรัมย์-พีอีเอ, ดัสกร ทองเหลา ห้องเครื่องจากฮอง อันห์ ยาลาย, จักรพันธ์ แก้วพรม จากบีอีซี เทโรฯ, ไพฑูรย์ นนทะดี จากจุฬาฯ ยูไนเต็ด, อมร ธรรมนาม จากพัทยาฯ ยูไนเต็ด, นูบุยากิ ไซเซ็น จาก มอนเตริโอ ทีมในเจทูแดนปลาดิบ, โมฮัมเหม็ด โคเน่ หัวหอกจาก ชลบุรี เอฟซี, แบร์คาน เกิคทานจาก 1860 มิวนิค และคริสเตียนหอกดาวรุ่งจากอันเดอร์เลช ทีมในลีกของเบลเยียม


นอกจากนั้นนักเตะดีกรีทีมชาติไทยอย่าง กวิน ธรรมสัจจานันท์, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ธีรเทพ วิโนทัย, ธีรศิลป์ แดงดา, ปิยะชาติ ถามะพันธ์ และตัวทีเด็ด อย่าง ซูมาโฮโร่ ยาย่า, วิศรุต พันนาสี, ดานโก้ เซียก้า,ซิลล่า มูซ่า, ปกาศิต แสนสุข, เจษฎา จิตสวัสดิ์ ยังอยู่กันครบครัน


ข้อมูลนักเตะและสมาชิกในทีม
ผู้จัดการทีม : โรเบิร์ต โปรคูเร่อร์
ผู้เล่น :

ผู้เล่นไทย
No. ชื่อ-นามสกุล สัญชาติ ตำแหน่ง วันเกิด ส่วนสูง น้ำหนัก

1 ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์ Thai ผู้รักษาประตู 3 ส.ค.2522 182 cm. 75 kg.

3 ปกาศิต แสนสุข Thai กองหลัง 26 ต.ค.2527 170 cm. 65 kg.

4 ภานุพงศ์ วงศ์ษา Thai กองหลัง 23 พ.ย.2526 183 cm. 75 kg.

5 เจษฎา จิตสวัสดิ์ Thai กองหลัง 5 ส.ค.2523 175 cm. 70 kg.

6 ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ Thai กองหลัง 11 ม.ค.2525 184 cm. 80 kg.

7 ดัสกร ทองเหลา Thai กองกลาง 30 ธ.ค.2526 169 cm. 72 kg.

8 จักรพันธ์ แก้วพรม Thai กองกลาง 24 พ.ค.2531 169 cm. 65 kg.

9 รณชัย รังสิโย Thai กองหน้า 1 ส.ค.2531 177 cm. 68 kg.

10 ธีรศิลป์ แดงดา Thai กองหน้า 6 มิ.ย.2531 177 cm. 65 kg.

11 ปิยะชาติ ถามะพันธ์ Thai กองหลัง 4 เม.ย.2529 170 cm. 69 kg.

14 ธีรเทพ วิโนทัย Thai กองหน้า 16 ก.พ.2528 171 cm. 69 kg.

16 ไพฑูรย์ นนทะดี Thai กองกลาง 11 ส.ค.2530 181 cm. 65 kg.

17 วิศรุต พันนาสี Thai กองหลัง 13 มิ.ย.2527 172 cm. 62 kg.

18 นฤพล อารมณ์สวะ Thai กองกลาง 16 ก.ย.2531 172 cm. 61 kg.

19 พิชิตพงษ์ เฉยฉิว Thai กองกลาง 28 ส.ค.2525 170 cm. 60 kg.

20 อมร ธรรมนาม Thai กองกลาง 16 ต.ค.2527 174 cm. 58 kg.

23 ปิยพล บรรเทา Thai กองกลาง 8 พ.ย.2530 182 cm. 71 kg.

25 ชนานันท์ ป้อมบุบผา Thai กองหน้า 17 มี.ค.2535 182 cm. 73 kg.

26 กวิน ธรรมสัจจานันท์ Thai ผู้รักษาประตู 26 ม.ค.2533 182 cm. 78 kg.

27 วิธวินทร์ คลอวุฒิวัฒน์ Thai กองหลัง 29 ส.ค.2534 180 cm. 70 kg.

32 ธีรวัฒน์ ปิ่นประดับ Thai ผู้รักษาประตู 11 ก.ค.2527 183 cm. 77 kg.

33 นวพล ตันตระเสนีย์ Thai กองหลัง 19 มี.ค.2532 184 cm. 80 kg.



ผู้เล่นต่างชาติ
No. Full Name Nationality Position Date Of Birth Height Weight

13 KOUAKOU YAO CHRISTIAN Ivoirienne Forward 1 Mar 1991 182 cm. 73 kg.

15 MOUSSA SYLLA GUINEE Defender 15 Jun 1985 172 cm. 64 kg.

21 DAGNO SIAKA Ivoirienne Midfielder 11 Nov 1987 185 cm. 72 kg.

22 KONE MOHAMMED Ivoirienne Forward 28 Feb 1984 185 cm. 82 kg.

24 SOUMAHORO ALIYOUNE YAYA Ivoirienne Midfielder 28 Aug 1989 177 cm. 69 kg.

28 NOBUYUKI ZAIZEN Japanese Midfielder 19 Oct 1976 170 cm. 67 kg.

36 BERKANT GOEKTAN GERMAN Forward 12 Dec 1980 178 cm. 65 kg.

แวมไพร์ ทไวไลท์ 3 อีคลิปส์

จากความสำเร็จของ Twilight ที่กวาดรายได้ทั่วโลกไป 408 ล้านดอลล่าร์ (ในเมืองไทยทำเงินไป 68 ล้านบาท) และ The Twilight Saga: New Moon ที่ โกยรายได้ทั่วโลกไป 709 ล้านดอลล่าร์ (บ้านเราทำเงินไปกว่า 100 ล้านบาท) นั่นแสดงให้เห็นถึงกระแสความนิยมของหนังแวมไพร์โรแมนติกเรื่องนี้ว่าเป็นที่ ชื่นชอบของคอหนังขนาดไหน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เหล่าบรรดาแฟนคลับจะพากันเฝ้ารอหนังภาคต่อกัน อย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งการรอคอยอันแสนยาวนานนี้กำลังจะสิ้นสุดลง เพราะ The Twilight Saga : Eclipse แวมไพร์ ทไวไลท์ 3 อีคลิปส์ มีคิวลงโรงฉายในบ้านเราวันที่ 1 กรกฎาคม นี้แล้ว

และก่อนที่จะได้ไปดูหนังกันแบบเต็มๆ ลองย้อนกลับไปดูสักหน่อยเป็นไรว่า กว่าจะมาเป็น The Twilight Saga : Eclipse แวมไพร์ ทไวไลท์ 3 อีคลิปส์ เส้นทางของหนังเรื่องนี้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง...

- ต้นเดือน พฤศจิกายน 2008 (ก่อนที่จะ New Moon ออกฉายประมาณ 1 ปี) ซับมิต เอนเตอร์เทนเมนต์ ประกาศว่าทางสตูดิโอได้ลิขสิทธิ์หนังสือ New Moon, Eclipse และ Breaking Dawn สามเรื่องที่อยู่ในซีรี่ส์ Twilight ซึ่งเขียนโดย สเตเฟนี่ เมเยอร์ มาไว้ในครอบครองแล้วเรียบร้อย และยืนยันว่าจะนำมาสร้างเป็นหนังให้ดูกันทุกเรื่องแน่นอน



เดวิด สเลด ผู้กำกับ The Twilight Saga : Eclipse

- กุมภาพันธ์ 2009 ซับมิต ยืนยันว่า พวกเขาเริ่มต้นการผลิตหนัง The Twilight Saga: Eclipse แล้ว นอกจากนั้น ยังประกาศว่า คริส ไวต์ซ ผู้กำกับ New Moon จะไม่ตามมากำกับ The Twilight Saga: Eclipse โดยผู้ที่จะมากำกับ The Twilight Saga: Eclipse คือ เดวิด สเลด (ที่สร้างชื่อจากหนังแวมไพร์เลือดสาด 30 Days of Night) แต่ยังคงได้ เมลิสซ่า โรเซนเบิร์ก กลับมาเขียนบทเหมือนเดิม



วิคตอเรีย คนเก่า (ซ้าย) กับ วิคตอเรีย คนใหม่ (ขวา) ใครจะแหล่มกว่ากัน?

- กรกฎาคม 2009 ผู้สร้างเปิดเผยว่า นักแสดงที่จะมารับบท วิคตอเรีย แวมไพร์สาวผู้ต้องการชีวิต เบลล่า เพื่อล้างแค้นให้กับคนรัก จะเปลี่ยนจาก เรเชล เป็น ไบรซ์ ดัลลัส โฮเวิร์ด โดยให้เหตุผลว่า เรเชล มีคิวถ่ายหนังเรื่องอื่น 10 วัน (หนังเรื่องนั้นชื่อ Barney's Version) ซึ่งทางผู้สร้างเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อการถ่ายทำ The Twilight Saga: Eclipse จึงตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้รับบท วิคตอเรีย เป็น ไบรซ์ ดัลลัส โฮเวิร์ด ซึ่งความจริงแล้ว ไบรซ์ ดัลลัส โฮเวิร์ด เคยถูกทาบทามให้มารับบทวิคตอเรีย ตั้งแต่หนัง Twilight แต่เธอปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่า วิคเตอเรีย ใน Twilight มีบทบาทในเรื่องน้อยไป

- The Twilight Saga: Eclipse เริ่มถ่ายทำเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2009 ที่แวนคูเวอร์ ฟิล์ม สตูดิโอส์ โดยฉากแรกๆ ที่ลงมือถ่ายทำเป็นฉากที่ ฮาเวียร์ ซามูเอล, คริสเตน สจ็วร์ต และโรเบิร์ต แพททินสัน เข้าฉากร่วมกันในบ้านของเบลล่า

- 5 พฤศจิกายน 2009 โปสเตอร์แรกของ The Twilight Saga: Eclipse ถูกนำออกมาเผยแพร่

- 19 พฤศจิกายน 2009 The Twilight Saga: New Moon เข้าฉายในเมืองไทย ส่วนที่อเมริกา New Moon เข้าฉายในวันถัดมา 20 พฤศจิกายน หลังจากนั้นสาวก Twilight ก็ใจจดใจจ่ออยากให้ ออกฉายซะที

- ล่วงเข้าสู่ปลายเดือน พฤศจิกายน 2009 ก็เข้าสู่ขั้นสุดท้ายในส่วน Post Production


- 12 ธันวาคม 2009 เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์ ไปเป็นแขกรับเชิญในรายการ Saturday Night Live ทำให้พ่อหนุ่ม จาค็อป ขวัญใจทั้งสาวแท้สาวเทียม กลายเป็นนักแสดงซึ่งเป็นที่อายุน้อยที่สุดที่เคยมาร่วมรายการ และปัจจุบันนี้หนุ่มสุดฮ็อตจาก Twilight, New Moon (และล่าสุดกับ The Twilight Saga: Eclipse) กลายเป็นหนึ่งในนักแสดงวัยรุ่นที่มีค่าตัวแพงที่สุดไปแล้วเรียบร้อย

- มกราคม 2010 บทหนังดราฟต์แรกบางส่วนของ The Twilight Saga: Eclipse ถูกมีดีนำไปปล่อยในอินเตอร์เน็ต! ทำให้สาวกทั้งหลายที่ได้อ่านบทคาดเดาเรื่องกันไปต่างๆ นานา







- 12 มีนาคม 2010 ตัวอย่างหนัง The Twilight Saga : Eclipse แวมไพร์ ทไวไลท์ 3 อีคลิปส์ เวอร์ชั่นแรก ถูกปล่อยออกมาเรียกน้ำย่อยเหล่าสาวก และสามารถล้มสถิติการเข้าชมตัวอย่างของ New Moon ลงได้อย่างราบคาบ โดยหลังจากที่ปล่อยตัวอย่าง The Twilight Saga: Eclipse ออกมาได้เพียง 6 วัน ก็มียอดผู้คลิกเข้าไปชมตัวอย่างสูงกว่า 10 ล้านคน โดยเฉพาะใน Youtube.com เว็บเดียวก็มีผู้ชมปาเข้าไป 9 ล้านกว่าคนแล้ว โดยฉากที่เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับได้มากที่สุดคือฉากที่ โรเบิร์ต แพททินสัน (แวมไพร์หน้ายก เอ็ดเวิร์ด) และ เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์ (หมาป่าซิกแพ็ค จาค็อป ) ปะทะคารมกันเพื่อแย่งชิงหัวใจของ เบลล่า (ที่รับบทโดย คริสเตน สจ็วร์ต)

- เมษายน 2010 มีการเปิดเผยว่า The Twilight Saga: Eclipse ต้องถูกถ่ายซ่อมหลายฉาก โดยทั้งผู้กำกับ เดวิด สเลด และเจ้าของบทประพันธ์ สเตเฟนี่ เมเยอร์ ต้องลงมาคุมการถ่ายหนังด้วยตัวเอง ซึ่งมีทั้งเจค, เบลล่า และจาค็อป เข้าฉากที่ว่านี้ (แต่บางแหล่งข่าวก็บอกว่า เดวิด สเสด ไม่ได้มาร่วมในการถ่ายซ่อมครั้งนี้...เอ๊ะยังไง?)


- 13 พฤษภาคม 2010 โรเบิร์ต แพททินสัน ไปปรากฏตัวในรายการ The Oprah Winfrey Show เพื่อโปรโมตหนังเรื่อง The Twilight Saga: Eclipse

- 26 พฤษภาคม 2010 The Twilight Saga: Eclipse คว้ารางวัล หนังซัมเมอร์ที่มีคนรอคอยมากที่สุด (Most Aniticpated Movie of The Summer) จากเวที National Movie Awards ซึ่งเป็นรางวัลที่แฟนชาวอังกฤษร่วมโหวตให้กับหนังและดาราในดวงใจ ในขณะที่ โรเบิร์ต แพททินสัน ก็สามารถ เฉือนชนะพระเอกรุ่นใหญ่อย่าง จอห์นนี่ เดปป์, ลีโอนาโด ดิคาร์ปริโอ และโรเบิร์ต ดาวน์นี่ จูเนียร์ คว้ารางวัล นักแสดงแห่งปี จากเวทีนี้ไปครองได้เช่นกัน





- ด้วยกระแสความคลั่งไคล้ของเหล่าบรรดาแฟนคลับ ทำให้มีการผลิตเสื้อผ้าซึ่งออกแบบตามเครื่องแต่งกายของ เบลล่า และ อลิซ ออกจำหน่ายด้วย โดยเครื่องแต่งกายคอลเล็คชั่นนี้จะวางขายในวันที่ 4 มิถุนายน 2010

คุณจะได้เห็นอะไรบ้างใน The Twilight Saga: Eclipse แวมไพร์ ทไวไลท์ 3 อีคลิปส์ คำตอบอยู่ตรงนี้แล้ว คลิกไปดูกันเลย...









เกร็ดภาพยนตร์

The Twilight Saga: Eclipse
ศึกรักแสนเข้มข้น ศึกรบสุดมันส์!

เทพบุตรแวมไพร์ หมาป่ากล้ามใหญ่ และสาวหัวใจสะออน จะลงเอยกันยังไง? The Twilight Saga: Eclipse จะมีอะไรใหม่ๆ มีอะไรตื่นเต้นๆ มาให้แฟนๆ ได้ดูกันบ้าง ด้านล่างนี้มีคำตอบรออยู่...

Twilight ภาคใหม่ เปลี่ยนผู้กำกับคนใหม่

เป็นอีกครั้งที่ทีมผู้สร้างตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้กำกับใหม่ โดย The Twilight Saga: Eclipse จะเป็นฝีมือของ เดวิด สเลด ที่ภาคนี้โทนของหนังจะดู หดหู่ มืดม่นกว่าเดิม และมีฉากแอ็คชั่นมากกว่าสองภาคแรก ซึ่งรับรองได้เลยว่า The Twilight Saga: Eclipse จะเป็นหนังรักสามเส้าสุดเข้มข้น ฉากแอ็คชั่นสุดมันส์ สเปเชียลเอฟเฟ็กต์เพียบ อย่างแน่นอน

โรแมนติกสุดจี๊ด แอ็คชั่นสุดเจ๋ง!









ย้อนกลับไปตอนจบของภาคที่แล้ว The Twilight Saga : New Moon เบลล่า ตัดสินใจเลือกผู้ชายที่เธอมอบหัวใจให้อย่าง เอ็ดเวิร์ด และยอมที่เปลี่ยนตัวเองเป็นแวมไพร์เพื่อครองคู่กับคนที่ตัวเองรักตลอดไป แต่เอ็ดเวิร์ด ไม่ยอม โดยตั้งเงื่อนไขว่าเธอจะต้องยอมแต่งงานกับเขาเสียก่อน ในขณะที่เจค็อบ ก็ยังคงมาวนเวียนในชีวิตของเบลล่า ทำให้เธอรู้สึกสับสบ ซึ่งเวลาเดียวกันนั้นเอง วิคตอเรีย ได้รวบรวมกองทัพแวมไพร์กลับมาฆ่า เบลล่า เพื่อเป็นการล้างแค้นให้กับ เจมส์ คู่รักของเธอที่ถูก เอ็ดเวิร์ด สำเร็จโทษไปตั้งแต่ภาคแรก ซึ่งนั่นทำให้กลุ่มมนุษย์หมาป่า และแวมไพร์ตระกูลคัลเลนอันประกอบไปด้วย ดร.คาร์ไลส์, เอสเม่, อลิซ, เอมเมตต์, โรชาลี และ แจสเปอร์ ต้องจับมือร่วมกันต่อสู้เพื่อปกป้องชีวิต เบลล่า เอาไว้ ซึ่งนั่นคือที่มาของฉากแอ็คชั่นสุดมันส์ และการต่อสู้สุดระทึก ใน The Twilight Saga: Eclipse

ตัวละครหน้าใหม่เพียบ







นอกจากจะได้ ไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด มารับบทเป็น วิคตอเรีย คนใหม่แล้ว เรายังจะได้เห็นตัวละครหน้าใหม่ที่มีบทบาทสำคัญใน The Twilight Saga: Eclipse อย่าง มาเรีย (รับบทโดย แคธทารีน่า ซานดิโน โมเรโน่) หัวหน้ากลุ่มแวมไพร์เม็กซิโก, ไรลี่ย์ (รับบทโดย ซาเวียร์ ซามูเอล) หัวหน้ากลุ่มแวมไพร์ซีแอ๊ตเทิ่ล,บรี (รับบทโดย โจเดลล์ เฟอร์แลนด์) แวมไพร์ในกองทัพของวิคตอเรีย รวมถึงได้รู้จักมนุษย์หมาป่าหน้าใสไว้ละอ่อน เซ็ธ (รับบทโดย บูบู สจ๊วร์ต)

ทำไมถึงต้องดู































หนังแวมไพร์โรแมนติกที่แฟนทั่วโลกรอคอย กับภาคล่าสุดที่เรื่องราวเข้มข้นขึ้นทุกขณะ ทั้งในส่วนของความรัก และ การต่อสู้ต่อระหว่างฝูงหมาป่าและแวมไพร์ผู้ไล่ ภาคที่แล้ว เอ็ดเวิร์ด กับ เจค็อบ อาจจะเจอกันครั้งเดียวในตอนจบ แต่ The Twilight Saga: Eclipse เราจะได้เห็นทั้งคู่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่เพื่อหญิงสาวอันเป็นที่รัก นอกจากนี้ ยังมีฉากเจค็อบ จูบกับเบลล่า ในเต็นท์ซึ่งเป็นหนึ่งในฉากที่แฟนๆ อยากเห็นมากที่สุดให้ดูด้วย...




บอกได้คำเดียวว่า พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง!!!
ที่มา http://www.majorcineplex.com